อาหารที่ผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรรับประทาน
โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้คนทั่วโลก แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ เริ่มต้นการการรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
หลักในการรับประทานอหารเพื่อสุขภาพหัวใจที่ดี
อาหารที่รับประทานได้
- เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันและหนัง
- ปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซา์ดีน
แนะนำให้รับประทานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 คร้ัง เพราะน้ำมันจากปลาทะเลช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ในเลือดและช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ - น้ำมันจากพืช ควรใช้ปริมาณที่น้อยๆ เช่่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา น้ำมันถั่วลิสง เป็นต้น
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารที่มีคอลเรสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง มันหมู มันไก่ อาหารทะเล ยกเว้นเนื้อปลา น้ำมันจากพืชบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ บรรดาของทอด หรือผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย มาการีน ชีส
- อาหารที่มีไขมันชนิดอิ่มตัว (รับประทานได้ไม่เกิน 10% หรือน้อยกว่าจากพลังงานที่ควรได้รับตลอดวัน) เช่น ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ อาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันสัตว์ (เช่น ไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ)
- อาหารที่มีไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ทำให้คุณสมบัติของไขมันเปลี่ยนแปลงไป มักพบในครีมเทียม เนยเทียม เนยขาว ขนมกรุบกรอบ คุกกี้ เค้ก และอาหารทอดที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ
- จำกัดปริมาณโซเดียมด้วยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด เพราะอาหารที่มีปริมาณโซเดียมมากจะทำให้ความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคหัวใจ สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจควรจำกัดการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมวันละ 3,000 มิลลิกรัมหรือน้อยกว่า (เกลือ 1 ช้อนชา=โซเดียม 2,000 มิลลิกรัม) และไม่ควรเติมหรือปรุงรสอาหารขณะรับประทาน หากต้องการเพิ่มรสชาติอาจใช้เครื่องเทศ เช่น ตะไคร้ พริกไทย ใบมะกรูด หรือเพิ่มรสเปรี้ยวจากมะนาว
- เพิ่มปริมาณใยอาหาร ด้วยการรับประทานผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าว ขนมปังที่ไม่ผ่านการขัดสี และธัญพืชต่างๆ โดยในแต่ละวันร่างกายต้องการใยอาหารอย่างน้อย 25 กรัม ทั้งนี้ใยอาหารแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
- ใยอาหารชนิดละลายน้ำ พบในธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต รำข้าว ถั่วเมล็ดแห้ง ผัก ผลไม้ ใยอาหารชนิดนี้จะช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
- ใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ พบในธัญพืชและขนมปังที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ถั่วเปลือกแข็ง ผักและผลไม้บางชนิด ใยอาหารชนิดนี้จะดูดซึมน้ำไว้ช่วยให้การทำงานของระบบลำไส้และการย่อยอาหารมีประสิทธิภาพ
ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีใยอาหารทั้ง 2 ชนิด ด้วยการรับประทานอาหารให้หลากหลายประเภทในปริมาณที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือน้ำตาลฟรุกโตส เพราะจะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดเพิ่มขึ้นและได้รับพลังงานเกิน ถ้าต้องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรเกินวันละ 2 แก้วมาตรฐาน (1 แก้วมาตรฐาน=เบียร์ 285 มล., ไวน์ 120 มล.)
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนผสม เช่น ชา กาแฟ ไม่เกินวันละ 2 - 3 แก้ว
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) อาจสามารถป้องกันและต่อต้านการเกิดโรคหัวใจได้ ซึ่งแหล่งสำคัญของอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่
วิตามินเอ (แคโรทีน)
แครอท แอพริคอท ฟักทอง มะม่วง ผักโขม แคนตาลูป ปวยเล้ง ลูกพีช บรอกโคลี ผักบุ้ง
![](http://heart.kku.ac.th/images/Qshc_article/health_tips/food/carollteen.jpg)
วิตามินอี
น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอก คำฝอย น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน อัลมอนด์ จมูกข้าวสาลี
![](http://heart.kku.ac.th/images/Qshc_article/health_tips/food/almond_2.jpg)
วิตามินซี
ส้มเขียวหวาน มะเขือเทศ ส้มเช้ง ฝรั่ง กีวี่ ส้มโอ ถั่วงอก
กะหล่ำปลี บรอกโคลี พริก มะนาว
![](http://heart.kku.ac.th/images/Qshc_article/health_tips/food/Know_vitamin_C_deeply_01.jpg)
ควรทำอย่างไรหากรับประทานอาหารนอกบ้าน
โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้คนทั่วโลก แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ เริ่มต้นการการรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
- หลีกเลี่ยงอาหารทอดในน้ำมันมากๆ ควรเลือกรับประทานอาหารประเภท ต้ม ย่าง ปิ้ง นึ่งแทน เช่น ปลาอบ ไก่ย่างไม่ติดหนัง ผัดผัก และอย่าลืมกำชับพนักงานเสิร์ฟเพื่อขอให้ปรุงอาหารที่ไม่เค็ม
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมัน เช่น ซี่โครงหมู ไส้กรอก และขนมหวานที่มีส่วนประกอบของกะทิและครีม
- รับประทานผลไม้แทนขนมหวาน ถ้าต้องการรับประทานขนมหวานควรเลือกชนิดที่รสไม่หวานจัด ไม่มีส่วนผสมของไข่แดง นม เนย กะทิ เช่น วุ้นใส เยลลี่ ฟรุตสลัด ถั่วเขียวต้มน้ำตาล เป็นต้น และอย่าลืมว่าควรรับประทานขนมหวานในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น
- เครื่องดื่มที่สามารถบริโภคได้ เช่น น้ำแร่ น้ำเปล่า โซดา น้ำผลไม้สด นมพร่องไขมัน
- ควรสอบถามพนักงานเสิร์ฟเกี่ยวกับสูตรอาหาร หากมีเครื่องปรุงบางอย่างที่ควรหลีกเลี่ยงโปรดแจ้งให้เปลี่ยนหรือไม่ใช้ เช่น ข้าวผัดไก่ไม่ใส่ไข่แดง ก๋วยเตี๋ยวน้ำลูกชิ้นปลาไม่ใส่น้ำมันกระเทียมเจียว เป็นต้น
เกลืออยู่ในอาหารที่เรารับประทานได้อย่างไร?
โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้คนทั่วโลก แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ เริ่มต้นการการรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
- 25% มาจากอาหารตามธรรมชาติ เช่น หอมใหญ่ 100 กรัม มีโซเดียม 11 มิลลิกรัม เป็นต้น
- 50% ได้จากอาหารสำเร็จรูป เช่น ซุปปรุงรสชนิดก้อน ผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์สำเร็จรูป เช่น ไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ เบคอน
- 25% มาจากการปรุงรสอาหาร เช่น เติมเกลือ ซีอิ๊ว น้ำปลา
ขอบคุณข้อมูลจาก
Better Health โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ,ดูแลสุขภาพหัวใจ เริ่มง่ายๆ ที่อาหาร
ภาพประกอบ: จาก Internet