Print this page

โปรแกรมการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ หลอดเลือดและทรวงอก

ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ได้รับการรักษาโดยวิธีผ่าตัด มีแนวโน้มที่จะมีภาวะแทรกซ้อน

โปรแกรมการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ หลอดเลือดและทรวงอก (Pre-operative program)

     ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ได้รับการรักษาโดยวิธีผ่าตัด มีแนวโน้มที่จะมีภาวะแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ปอดอักเสบ และปอดแฟบ ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลังการผ่าตัดผู้ป่วยมีอาการปวดแผล และการดมยาสลบ ทำให้ผู้ป่วยหลังผ่าตัด มีการสร้างเสมหะเยอะกว่าปกติ ทำให้มีเสมหะคั่งค้างในปอด อีกทั้งการหายใจได้สั้นและตื้น จึงมีโอกาสที่แฟบ ปอดมีการติดเชื้อ และกลายเป็นโรคปอดบวมในที่สุด ส่งผลให้การฟื้นตัวเป็นไปได้ช้า ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานขึ้น ตลอดจนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวสูงขึ้นด้วย ดังนั้นการฝึกหายใจและการฝึกไอแบบมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฝึกการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะสามารถลดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดได้

1. การฝึกหายใจ

วิธีที่ 1 การฝึกหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อกะบังลม

  • วางมือทั้ง 2 ข้างบนท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่
  • สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ทางจมูก และให้ท้องป่องออก
  • เป่าลมหายใจออกโดยวิธีห่อปากเป่าลมออกช้าๆ ให้ท้องแฟบลงช้าๆ
  • หายใจเข้าและออกซ้ำกัน 6-10 ครั้ง/รอบ อย่างน้อย 3 รอบในทุกๆ ชั่วโมงที่ตื่น

วิธีที่ 2 การฝึกหายใจของกลีบปอดส่วนล่าง

  • วางมือทั้ง 2 ข้างที่ชายโครงด้านล่าง
  • สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ทางจมูก ให้ซี่โครงบานออก
  • เป่าลมหายใจโดยการห่อปาก เป่าลมออกช้าๆ ให้ซี่โครงแฟบลง
  • หายใจเข้าและออกซ้ำกัน 6-10 ครั้ง/รอบ อย่างน้อย 3 รอบในทุกๆ ชั่วโมงที่ตื่น

2. การฝึกการเคลื่อนไหวของทรวงอก

     เพื่อช่วยให้เกิดการขยายตัวของทรวงอกเพิ่มขึ้น เพิ่มการระบายอากาศของปอดให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังการผ่าตัด และป้องกันภาวะข้อไหล่ติดแข็งหลังผ่าตัดทรวงอก นอกจากนี้การฝึกเคลื่อนไหวของทรวงอกยังเป็นวิธีที่ช่วยลดความตึงและเพิ่มความยืดหยุ่นของพังผืดที่เกิดขึ้นกับแผลหลังผ่าตัดได้อีกด้วย

วิธีฝึก

  • ยกแขนขึ้นพร้อมกันสองข้างพร้อมกับค่อยๆสูดลมหายใจเข้าทางจมูกช้าๆ
  • หลังจากนั้นเอาแขนลงพร้อมกับค่อยๆเป่าลมออกทางปากช้าๆ ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง/รอบ 1-2 รอบ

3. การฝึกไอ

วิธีฝึก

  • ผู้ป่วยอยู่ในท่านอนหรือนั่งโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย
  • ใช้หมอนหรือผ้าห่มวางบนแผลผ่าตัด
  • วางมือทั้ง 2 ข้างบนหมอนหรือผ้าห่ม กดบริเวณเหนือแผล และใช้ 2 แขน โอบรอบๆ ทรวงอก
  • สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลั้นหายใจไว้ประมาณ 1-2 วินาที พร้อมไอออกมาแรงๆ 1-2 ครั้ง

4. การออกกำลังกายขา

     การออกกำลังกายขามีความสำคัญเช่นกัน เพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปได้เร็วขึ้น เตรียมพร้อมเพื่อการลุกขึ้น ยืน เดินและการฟื้นฟูหัวใจหลังการผ่าตัด โดยผู้ป่วยสามารถเริ่มออกกำลังกายขาได้หลังจากวันผ่าตัดเป็นต้นไป เพื่อเตรียมพร้อมสู่การออกกำลังกายในระดับที่หนักขึ้น เช่น การนั่ง หรือการเดินต่อไป ทั้งนี้การออกกำลังกายเพื่อการฟื้นฟูหัวใจผู้ป่วยจะได้รับการดูแลจากนักกายภาพบำบัดฟื้นฟูหัวใจเพิ่มเติมอีกครั้งหลังการผ่าตัด

ท่าที่ 1 กระดกข้อเท้า

  • ผู้ป่วยอยู่ในท่านอน หรือนั่ง
  • กระดกข้อเท้าขึ้น-ลง สลับกันไปเรื่อยๆ

ท่าที่ 2 งอ-เหยียดข้อเข่าและข้อสะโพก

  • ผู้ป่วยอยู่ในท่านอน หรือนั่งหลังพิงเตียง
  • งอเข่าและสะโพก ลากส้นเท้าเข้าช้าๆ จากนั้นเหยียดเข่าและสะโพก ลากส้นเท้าออกช้าๆ สลับกันทีละข้าง ทำซ้ำ 10 ครั้ง/รอบ 1-2 รอบ

5. การฝึกการลุกนั่งห้อยขา

     ผู้ป่วยหลังผ่าตัด ควรจะลุกนั่งโดยการตะแคงตัวก่อนเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการปวดแผลและปวดหลังได้ทั้งนี้ผู้ป่วยไม่ควรลุกขึ้นจากท่านอนหงายและใช้มือดึงข้างเตียง และหากญาติต้องการช่วยไม่ควรดึงแขนผู้ป่วยขึ้น ควรสอดมือเข้าประคองที่ด้านหลังบริเวณสะบักขึ้น

วิธีฝึก

  • ให้ผู้ป่วยตะแคงตัวไปด้านที่ต้องการจะลุกขึ้น
  • งอเข่าและสะโพกทั้ง 2 ข้าง
  • หย่อนขาทั้ง 2 ข้างลงจากเตียงและใช้ข้อศอกยันตัวลุกขึ้นนั่ง
Read 9132 times